
ครูดินห่วงนักวิ่งไทย เช็คร่างกายให้พร้อม
สถาวร จันทร์ผ่องศรี หรือที่รู้จักกันในวงการนักวิ่ง คือ “ครูดิน” ปัจจุบันอายุ 57 ปี เคยเป็นอดีตนักวิ่งมาราธอนทีมชาติไทย ที่ได้เหรียญทองแดงเหรียญแรกของประเทศไทย จากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ เมื่อปี 2528 ท่านเป็นน้องคนเล็กสุดของพี่น้อง “จันทร์ผ่องศรี” จำนวน 6 คน หนึ่งในนั้นคือ สมบัติ จันทร์ผ่องศรี อดีตผู้ฝึกสอนนักวิ่งมาราธอนทีมชาติไทย และการุณ จันทร์ผ่องศรี อดีตนักวิ่งที่ผันตัวไปเป็นโค้ชจิตอาสา โดยปัจจุบันครูดินก็ได้เป็นครูสอนวิ่งชื่อดังพร้อมทั้งเขียนหนังสือเกี่ยวกับการวิ่งที่ชื่อว่า “วิ่งได้ ไม่ใช่แค่วิ่ง”
โดยครูดินได้ออกมาเตือนด้วยความห่วงใยสำหรับเหล่าบรรดานักวิ่งหน้าใหม่ที่สนใจการวิ่งมาราธอนว่า “เพื่อความปลอดภัยควรจะเช็คร่างกายให้พร้อมที่ก่อนวิ่ง” ทั้งนี้เพราะในช่วงเดือนพฤศจิกานที่ผ่านมา มีข่าวเศร้าเกี่ยวกับการแข่งขันวิ่งมาราธอนในประเทศไทย เมื่อมีนักวิ่งเสียชีวิตคาสนามวิ่งถึง 3 คนในวันเดียวกัน เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา โดย 2 คนแรก คือ นายสกานต์ อายุ 30 ปี และ นายนราสิฐ อายุ 54 ปี ที่ร่วมการแข่งขันวิ่งมาราธอน ที่อำเภอบ้านค่าย จ.ระยอง เกิดอาการเป็นลมหมดสติ จนล้มลงไปกับพื้นถนนในเวลาไล่เลี่ยกันจากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยอำเภอปลวกแดง ได้เข้าทำการช่วยเหลือ พร้อมทำ CPR แต่ไม่เป็นผล จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลปลวกแดง จ.ระยอง แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ โดยทั้ง 2 ท่าน เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล
ส่วนอีก 1 คน คือ นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ อายุ 59 ปี เป็นรองอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้เข้าร่วมกิจกรรมวิ่งถิ่นวีรชนมินิฮาล์ฟมาราธอน ที่อุทยานวีรชนค่ายบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี และได้หมดสติระหว่างวิ่ง แพทย์ได้ทำการปฐมพยาบาล ณ ที่เกิดเหตุและนำส่งถึงโรงพยาบาลค่ายบางระจัน และใช้เครื่องกระตุกหัวใจ 5 ครั้ง แต่ท่านไม่ตอบสนองและเสียชีวิตด้วยหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน นับเป็นเรื่องเศร้าของวงการวิ่งของไทย
ทาง“ครูดิน” สถาวร จันทร์ผ่องศรี จึงให้คำแนะนำสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่และผู้ที่เป็นนักกีฬาวิ่ง ควรที่จะเช็คความพร้อมของร่างกายก่อนจะเริ่มวิ่งโดยต้องรู้ต้นทุน รู้สภาวะของตัวเอง และที่สำคัญต้องได้รับการตรวจสุขภาพจากแพทย์เพื่อประเมินตัวเอง ไม่ว่าจะเล่นกีฬาใด ๆ อย่ามองข้ามสิ่งนี้ว่าไม่เป็นไร จนมองข้ามความปลอดภัยไป
ครูดิน ย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดโดยเฉพาะคนที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ไม่ควรวิ่งในทันที ควรเริ่มจากการเดินเร็วให้รู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยกว่าปกติ และลดระดับความเร็วลง ให้ร่างกายรู้จักความเหนื่อยว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว ทำอย่างน้อย 20-30 นาที ในการเดินสลับช้าเร็ว หรือคนมีน้ำหนักตัวมาก ซึ่งการออกกำลังกายจะกระทบมากต่อกระดูกข้อต่อและไขข้อต่าง ๆ ดังนั้นการเริ่มออกกำลังกายต้องหมุนหัวไหล่ เหมือนการวอร์มอัพให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ไกลขึ้น โดยเริ่มแรกการหมุนหัวไหล่อาจติดขัด และเมื่อเริ่มออกกำลังกายการแกว่งแขนจะยังไม่ดี ไม่ควรหักโหมเกินไป
นอกจากนี้ครูดินยังเตือนนักวิ่งว่า ไม่ควรที่จะไปวิ่งออกกำลังกายคนเดียว ควรที่จะพาคนในครอบครัวมาวิ่งด้วยกัน นอกจากจะสร้างความสุขร่วมกันอีกด้วย หากมีปัญหาเกี่ยวกับการวิ่งก็สามารถให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงทีอีกด้วย
นั่นเป็นความห่วงใยจากคนที่มีประสบการณ์ในการวิ่งที่ฝากมาถึงนักวิ่งทุกคน เพื่อความปลอดภัยในการวิ่งควรที่จะเช็คร่างกายให้พร้อม ก่อนวิ่งและไม่ควรวิ่งคนเดียวการมีเพื่อนร่วมวิ่งจะปลอดภัยกว่าการไปวิ่งตามลำพัง หวังว่าทุกคนที่ชอบวิ่งจได้รับประโยชน์และมีสุขภาพดี มีความสุขในการวิ่งทั้งการออกกำลังกายและการแข่งขัน